Taruguín Ep.1 – เมื่อมิตรภาพท้าทายตำนาน Ribera del Duero ด้วยจิตวิญญาณจากเถาองุ่นร้อยปี
- Purple Vino
- 13 ส.ค.
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 16 ส.ค.
ในแคว้นไวน์ชื่อดังอย่าง Ribera del Duero ที่หลายคนคุ้นเคยกับไวน์สไตล์หนักแน่นและทรงพลัง จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเพื่อนสองคนลุกขึ้นมาท้าทายขนบเดิมๆ ด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่าง? วันนี้ Purple Vino ขอแนะนำให้รู้จักกับ Taruguín (ตารูกิน) โปรเจกต์ไวน์ที่เกิดจากมิตรภาพและความหลงใหลของ Julio หนุ่มท้องถิ่นแห่ง San Esteban de Gormaz และ Nacho ไวน์เมกเกอร์ชื่อดังจาก Demencia Winery พวกเขามีเป้าหมายเดียวกันคือ “การสร้างไวน์ที่สะท้อนแก่นแท้ของแผ่นดิน Soria ในสไตล์ที่สดชื่นและสง่างามยิ่งขึ้น”
ขุมทรัพย์ที่ถูกลืม: เถาองุ่น Pre-phylloxera แห่ง Soria
หัวใจของ Taruguín คือไร่องุ่นเก่าแก่ในจังหวัด Soria หนึ่งในไม่กี่แห่งของยุโรปที่เถาองุ่นจำนวนมากรอดพ้นจากหายนะ Phylloxera ในศตวรรษที่ 19 ด้วยลักษณะของดินที่เป็นทรายและความโดดเดี่ยวของพื้นที่ ทำให้เถาองุ่นโบราณเหล่านี้ หรือที่เรียกว่า “Pre-phylloxera vines” ซึ่งบางส่วนมีอายุกว่า 120 ปี สามารถหยั่งรากลึกและเติบโตได้โดยไม่ต้องพึ่งพารากขององุ่นสายพันธุ์อเมริกัน รากที่ลึกลงไปในดินเพื่อค้นหาอาหาร ทำให้องุ่นที่ได้มีรสชาติเข้มข้น ซับซ้อน และมีเอกลักษณ์ที่ไม่อาจลอกเลียนแบบได้

ความฝันของไวน์เมกเกอร์: The 2020 Vintage
ปี 2020 คือปีที่ไวน์เมกเกอร์เรียกว่าเป็น “วินเทจในฝัน” (dream vintage) สภาพอากาศที่ลงตัวตลอดทั้งปี ทำให้ได้ผลผลิตที่พอเหมาะและไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ไม่สูงจนเกินไป แต่เปี่ยมไปด้วยความลุ่มลึก (deep wines) โดยเฉพาะองุ่น Tinto Fino ที่เป็นส่วนประกอบหลักในไวน์ของ Taruguín ซึ่งทำให้ไวน์ที่ได้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างมาก
ปรัชญาในห้องเก็บไวน์: แทรกแซงให้น้อยที่สุด
Taruguín ยึดมั่นในปรัชญาการทำไวน์แบบ “Minimal Intervention” หรือการแทรกแซงให้น้อยที่สุด กระบวนการหมักเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากยีสต์บนเปลือกองุ่น (Spontaneous Fermentation) โดยไม่มีการเติมยีสต์สังเคราะห์หรือซัลเฟอร์ตลอดทั้งขั้นตอน เพื่อให้ไวน์ทุกขวดคือเสียงสะท้อนที่บริสุทธิ์ที่สุดขององุ่นและผืนดิน Soria

การท้าทายขนบเดิม ๆ ของ Ribera del Duero
สิ่งที่ทำให้โปรเจกต์ Taruguín น่าสนใจมากขึ้นคือความท้าทายในแวดวงไวน์ Ribera del Duero ที่มักจะมีสไตล์หนักแน่นและทรงพลังโดยทั่วไป โดย Julio และ Nacho สร้างไวน์ที่เน้นไปที่ความสดชื่นและความสมดุล โดยให้รสชาติที่ซับซ้อนของผืนดิน (terroir) แสดงออกมาอย่างชัดเจน ผ่านการเลือกองุ่นที่มีคุณภาพจากไร่ Pre-phylloxera ใน Soria เพื่อนำไปสู่การสร้างประสบการณ์การดื่มที่แตกต่าง
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q1: Phylloxera และ Pre-phylloxera คืออะไร?
A: Phylloxera คือเพลี้ยรากองุ่นขนาดเล็กที่ระบาดอย่างรุนแรงในยุโรปช่วงปลายศตวรรษที่ 19 มันกัดกินรากของเถาองุ่นสายพันธุ์ยุโรปจนตายและทำลายไร่ไวน์ไปเกือบทั้งทวีป ส่วน Pre-phylloxera หมายถึง “เถาองุ่นดั้งเดิม” ที่รอดชีวิตจากหายนะครั้งนั้นมาได้โดยไม่ต้องต่อกิ่ง ซึ่งพบได้น้อยมากในไม่กี่พื้นที่ของโลก เช่น Soria
Q2: สไตล์ของไวน์ Taruguín แตกต่างจาก Ribera del Duero ทั่วไปอย่างไร?
A: ในขณะที่ Ribera del Duero แบบดั้งเดิมเน้นความหนักแน่นและทรงพลัง Taruguín ตั้งใจสร้างไวน์ในสไตล์ที่เน้นความสดชื่น (Fresher) ความสง่างาม (Elegant) และความสมดุล โดยให้รสชาติที่ซับซ้อนของผืนดิน (terroir) แสดงออกมาอย่างชัดเจน
Q3: “Tinto Fino” ที่เป็นส่วนประกอบหลักของไวน์คือองุ่นพันธุ์อะไร?
A: Tinto Fino คือชื่อเรียกขององุ่นพันธุ์ Tempranillo ในแคว้น Ribera del Duero ซึ่งเป็นราชาแห่งองุ่นแดงของสเปน การเรียกชื่อตามท้องถิ่นสะท้อนถึงความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งระหว่างไวน์กับพื้นที่นั้นๆ
Q4: จะซื้อไวน์ Taruguín ในประเทศไทยได้อย่างไร?
A: คุณสามารถสั่งซื้อไวน์ Taruguín ได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ของ Purple Vino ซึ่งเป็นผู้นำเข้าอย่างเป็นทางการ โดยรายละเอียดของไวน์แต่ละรุ่นจะถูกนำเสนอใน Episode ต่อๆ ไป

บทเรียนจาก Taruguín
PROJECT Taruguín ไม่ใช่แค่การผลิตไวน์ที่อร่อยเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นและแนวคิดใหม่ ๆ ในแนวการผลิตไวน์ของสเปน ด้วยการผสมผสานประเพณีและนวัตกรรม พวกเขายืนยันว่าไวน์สามารถเป็นมากกว่าแค่เครื่องดื่ม—มันยังเป็นการเล่าเรื่องราวของมิตรภาพ ความหลงใหล และการบุกเบิกในโลกของไวน์
Taruguín ไม่เพียงแต่ท้าทายตำนาน Ribera del Duero แต่ยังสร้างเนื้อหาที่ให้แรงบันดาลใจสำหรับไวน์เมกเกอร์รุ่นใหม่ เพื่อก้าวตามรอยประเพณีแต่ทำให้มันมีชีวิตด้วยการสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่งจะเป็นเส้นทางใหม่ของไวน์แนวคิดร่วมสมัยและกลมกลืนกับวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างแท้จริง.




ความคิดเห็น